บ้าน + แกลเลอรี่ + สปา + เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ไม่บานที่พัทยา |
อพาร์ตเม้นท์ไม่บานหลังนี้เป็นบ้าน+แกลเลอรี่ + สปา + เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ไม่บาน หลังงามใจกลางเมืองพัทยา ใกล้กับโรงแรมฮาร์ทร๊อกคาเฟ่ ซึ่งจากประสบการณ์ในการออกแบบอาคารบ้านเรือนของผม ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี อาคารหลังนี้จัดได้ว่า ยากที่สุด ซับซ้อนที่สุดและมีนัยยะที่น่าสนใจที่สุดหลังหนึ่ง ที่ผมบอกว่า ยากที่สุดและมีนัยยะน่าสนใจที่สุดก็เพราะในอาคารมีฟังค์ชั่นที่หลากหลาย เพราะจะต้องเป็นทั้งบ้าน ที่พักอาศัย เป็นแกลเลอรี่ ห้องแสดงภาพเขียน ซึ่งเป็นของรักของหวงส่วนตัวของเจ้าของบ้านและจะต้องเป็นสปาเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งต้องมีบริเวณสำหรับออกกำลังกายอันประกอบด้วยลานพักผ่อนและสระว่ายน้ำ นอกจากนั้นยังต้องออกแบบบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้เป็นห้องอาหารเพื่อสุขภาพรวมถึงคาเฟทีเรีย สำหรับจิบชา กาแฟ และชื่นชมสวนซึ่งบริเวณต่าง ๆ จะต้องออกแบบให้สอดคล้องกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอาคารหลังนี้ ความยากประการที่สอง คือ จะต้องออกแบบให้สามารถจัดให้เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ในแบบอีโคดีไซน์สไตล์บูทีค เป็นผลให้ต้องออกแบบอุปกรณ์อาคารรวมถึงระบบทางวิศวกรรมต่างๆ ในอาคารเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลายต่าง ๆ เหล่านี้ และความยากประการที่สาม คือ ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นยางและต้นตะเคียนนับสิบต้นและต้นไม้เหล่านี้มีอายุนับร้อยปี บางต้นก็ขนาดสองคนโอบมีความ สูงร่วมสามสิบเมตร ทั้งเจ้าของอาคารและผมมีความเห็นตรงกันว่า เราควรที่จะต้องอนุรักษ์เก็บรักษากลุ่มของต้นยางและต้นตะเคียนโบราณเหล่านี้เอาไว้ให้คงอยู่คู่กับผืนดิน ผืนนี้ เพราะในส่วนตัวผมเชื่อว่า การพัฒนาใด ๆ ก็ตามจะต้องไม่ทำลายทรัพยากรพื้นถิ่นไม่ว่าจะเป็น สรรพสิ่งมีชีวิต พืชพรรณ สายน้ำ รวมถึงศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของพื้นที่ ดังนั้นเมื่อในพื้นที่ที่จะทำการก่อสร้างมีต้นตะเคียนและต้นยางที่มีอายุนับร้อยปี ในการออกแบบจึงจำเป็นต้องวางกลุ่มอาคารในตำแหน่งที่ไม่ทับซ้อนกับต้นไม้เหล่านี้ ทั้งสามข้อนี้หละครับทำให้งานออกแบบชิ้นนี้ ยากกว่างานปกติอีกทั้งรูปของผืนดินมีลักษณะแคบยาวเป็นรูปตัว L หลังจากที่ได้ทำการออกแบบจนได้อาคารรูปแบบต่าง ๆ เป็นระยะเวลากว่า 5 เดือน ก็ได้ผลผลิตทางปัญญาที่ทั้งเจ้าของและทีมงานสถาปนิก มัณฑนากร วิศวกร อพาร์ตเม้นท์ไม่บาน ต่างฟันธงตรงกันว่า น่าจะเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด รวมทั้งสามารถตอบโจทย์ได้ชัดเจนที่สุด มีผู้รู้ทางประวัติศาสตร์หลายท่านได้กล่าวไว้ตรงกันว่า คำว่าพัทยา นั้น น่าจะมาจากคำว่า ทัพพระยา ซึ่งหมายถึง ทัพของพระยาตากซึ่งท่านเคยยกกองทัพในช่วงกอบกู้เอกราชผ่านบริเวณนี้ หลังกรุงศรีอยุธยาได้แตกพ่ายให้กับกองทัพพม่า อันเป็นการเสียกรุงครั้งที่สองในช่วงปี พ.ศ. 2310 อันมีสาเหตุสำคัญมาจากการแตกแยกความสามัคคี คนในชาติแบ่งกันเป็นก๊กเป็นเหล่า ดู ๆ ไปก็ไม่ผิดจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน พูดไปพูดมาก็อดแขวะเข้าเรื่องการเมืองเสียไม่ได้ กลับมาพูดถึงการบ้านกันต่อครับ สำหรับอพาร์ตเม้นท์เอนกประสงค์ที่พัทยาหลังนี้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวน่าจะมีบริบทที่เกี่ยวข้องกับทางประวัติศาสตร์ของเมืองพัทยา เพราะอุดมไปด้วยต้นยางและต้นตะเคียนจำนวนนับสิบต้นที่มีอายุนับร้อยปีและก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ ในการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรท้องถิ่นเอาไว้ซึ่งผมเคยย้ำเสมอว่าการพัฒนาใด ๆ ก็ตามจำเป็นต้องอนุรักษ์ สืบสาน และพัฒนาทรัพยากรพื้นถิ่นเอาไว้ จึงถือเป็นหน้าที่ทางจริยธรรมที่จำเป็นต้องปฏิบัติ ผมขอชื่นชมที่เจ้าของอาคาร คือ คุณสุเทพ และ คุณวรรณา มีความคิดเห็นตรงกันกับผมที่จะอนุรักษ์เก็บรักษาต้นไม้เหล่านี้เอาไว้ ผลคือ ต้นไม้กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานออกแบบและยังทำให้กลุ่มอาคารเหล่านี้มีลักษณะเด่นพิเศษเฉพาะตัว แฟน ๆ คนรักบ้านลองจินตนาการตามผมนะครับว่า เมื่อท่านเข้าไปอยู่ในอาคารที่มีต้นไม้ใหญ่ขนาดสองคนโอบที่ให้ร่มเงาและสูงเด่นเป็นสง่า ซึ่งไม่ได้มีแค่ต้นเดียวแต่มีนับสิบต้นกระจายไปทั้งบริเวณถึงจะมีเงินเป็นร้อยล้านก็ซื้อกลุ่มต้นไม้อายุนับร้อยปีเหล่านี้ไม่ได้หรอกครับ บางต้นก็สูงร่วม 30 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขา ครอบคลุมไปทั้งอาณาบริเวณ บ้าน + แกลเลอรี่ + สปา + เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ไม่บานที่พัทยาหลังนี้ เป็นตัวอย่างที่น่าเรียนรู้และน่าจำไว้เป็นแบบอย่าง ช่วยกันรักษาไว้เถอะครับ ของดี มีอยู่ เพื่อให้รุ่นลูก รุ่นหลาน ได้ชื่นชมและร่วมดูแลรักษา เป็นอาคารที่ถึงพร้อมแห่งความพอเพียง มีความงามง่าย สวยนาน เป็นทั้งที่รักและที่พัก |