“สาทรซ่อนรัก” เป็นบ้านที่ขนาดไม่เล็กหรือไม่ใหญ่จนเกินไปแต่สามารถใช้พื้นที่ทุก ๆ ตารางนิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านได้มากถึง 12 ห้องนอน 12 ห้องน้ำ แต่ละห้องถูกออกแบบให้มีอากาศถ่ายเทอย่างดีเยี่ยม แสงแดดส่องถึงห้องน้ำทุกห้องและสามารถระบายอากาศสู่ภายนอกได้อย่างดี ทำให้ไม่อับชื้น ห้องนอนทุกห้องมีระเบียงกว้าง เอาไว้ตากผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม แม้กระทั่งถึงผ้าขาวม้า รวมทั้งเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ จัดได้ว่าเป็นอาคารที่ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยจริง ๆ ครับ และสามารถตั้งอยู่บนพื้นดินขนาดกำลังดี 40-50 วา ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป เป็นอาคาร 3 ชั้น แต่จะว่าจริง ๆ แล้วก็คือ 4 ชั้นนั่นหละครับ เพราะชั้นดาดฟ้าก็สามารถใช้งานได้เป็นที่ตั้งถังเก็บน้ำ หรือจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดสวน หรือ เอาไว้ตั้งศาลาไม้เพื่อปลีกวิเวก นั่งกินลม ชมดาวในคืนเดือนมืดหรือชมจันทร์ในคืนเดือนหงายกับคนที่รู้ใจก็ไม่ผิดกติกาอะไร แต่เหนือสิ่งอื่นใด “บ้านสาทรซ่อนรัก” ของผมนี้รับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีวันเชยครับ เพราะเป็นการออกแบบในสไตล์นีโอคลาสสิค เป็นความงามที่เรียบง่ายแต่ลึกในจินตภาพ เหมือนสาวสวยที่ยิ่งพิศ ยิ่งงาม ซ่อนความงดงามและความรักไว้ให้ค้นหาอย่างเหลือเฟือ นอกจากนี้ยังเป็นแบบบ้านที่มีกลิ่นอายของตะวันตกผสมผสานกับกลิ่นอายของตะวันออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านของบรรดาพ่อค้าวาณิชย์ชาวจีนซึ่งในทางสถาปัตยกรรมเรียกรูปแบบนี้ว่า “ชิโนโปรตุกีส” คือถ้าให้แปลกันตรงตัว ก็คือ สไตล์คนจีนผสมกับสไตล์ยุโรปโปรตุเกสนั่นเองครับ ถือว่าเป็นสไตล์ที่คลาสสิคอีกสไตล์หนึ่งที่จะไม่มีวันล้าสมัยเพราะสวยงามกำลังพอเหมาะ พอดี ในสังคม “แดกด่วน” ตามคำจำกัดความของ ท่านศาสตราจารย์ ดร. ชัยอนันต์ สมุทวณิช ท่านให้คำจำกัดความเอาไว้อย่างแหลมคมจับใจความได้ว่า ขนาดแดก (กินหรือรับประทาน) ก็ยังแดกอย่างด่วน ดังเช่น บรรดาอาหารฟาดฟู๊สของบริษัทข้ามชาติที่เปิดสาขากันเต็มบ้าน เต็มเมือง ก็ต้องกินเพราะหากไม่กินก็กลัวว่าจะไม่ทันสมัยตกกระแสของคนรุ่นใหม่ยุคโลกาภิวัฒน์ แต่สำหรับบ้าน “สาทรซ่อนรัก” ไม่ใช่รูปแบบสถาปัตยกรรมแดกด่วนอย่างแน่นอนครับ เพราะเป็นการที่ไม่ทำงานแบบเร่งด่วนแดกด่วน อย่างเร่งรีบแต่เกิดขึ้นจากการค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ ออกแบบบ้านบนพื้นที่ 50 ตารางวา จึงจัดได้ถึง 12 ห้องพักอาศัยและ 12 ห้องน้ำ ฟังดูก็เหลือเชื่อครับ แต่ก็เป็นไปแล้วและเป็นบ้านที่งามพิศไม่ใช่งามผ่านต้องมีเวลามองอย่างช้า ๆ ชัด ๆ มีเวลาค่อย ๆ พิจารณาไม่รีบจึงค้นพบความงดงามและความรักที่ซุกซ่อนอยู่ในใจของผมอยากให้อาคารบ้านเรือนของเราเป็นเช่นนี้ ค่อย ๆ สร้าง ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ คิด สร้างบ้านปรุงเรือนทั้งทีก็ให้อยู่กันเป็นร้อยปี ชั่วลูกหลานเหลนโหลนไม่เล่นกับรูปทรงอาคารมากเกินไปเพียงเพราะกลัวไปว่าจะไม่ทันสมัย เอาแต่พอเหมาะ พอดี พองาม สร้างก็ง่าย ดูแลก็ง่าย จะจัดตกแต่งภายในก็ง่าย ดูแลรักษาก็ง่าย และใช้ทุกตารางเมตรอย่างคุ้มค่า ดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ต้องพิจารณากันเอาเองครับแต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่าบ้าน “สาทรซ่อนรัก” เป็นบ้านไม่บานอีกหลังที่ผมชอบมาก ๆ ในยามแก่เฒ่าจะดัดแปลงเป็นห้องเช่าก็สามารถทำได้ไม่ผิดกติกาอะไร จะดัดแปลงเป็นออฟฟิศหรือสำนักงานขนาดเล็กก็ไม่เลวดูเหมาะเจาะลงตัวไปหมดครับ
|